เหล็กเอชบีม (H Beam) คือหนึ่งในวัสดุที่มักได้รับความนิยมในงานโครงสร้างหลากหลายประเภท เพราะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานสูง และมีขนาดให้เลือกมาก จึงนิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้างอาคารและโครงสร้างอุตสาหกรรมต่าง ๆ วันนี้เรามาดูกันว่า เหล็กเอชบีมมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างไร และเหมาะกับงานโครงสร้างแบบไหนบ้าง
เหล็กเอชบีม เพื่องานก่อสร้างและทำโครงสร้าง
เหล็กเอชบีม เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนชนิดหนึ่ง (Hot-Rolled Structural Steel) ที่ผ่านกระบวนการหลอมและหล่อเป็นแท่งเหล็ก แล้วนำไปรีดในขณะที่เหล็กยังร้อน มีลักษณะเด่นที่หน้าตัดเป็นรูปตัว H ซึ่งหน้าตัดฝั่งปีกและล่างเป็นพื้นผิวเรียบและมีความหนาเท่ากันตลอด จึงทำให้เหล็กชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี และทนทานต่อแรงต้านต่าง ๆ เป็นชนิดเหล็กที่นำมาใช้อย่างแพร่หลายในการก่อสร้างอาคาร โครงสร้างพื้นฐาน และงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ในปัจจุบันเหล็กเอชบีมจะนิยมใช้ที่ขนาดความยาวมาตรฐาน ได้แก่ 6 เมตร 9 เมตร และ 12เมตร
ข้อดีของการใช้งานเหล็กเอชบีม
• โครงสร้างมีน้ำหนักเบา : เหล็กชนิดเอชบีมมีการออกแบบโครงสร้างที่เบากว่าโครงสร้างคอนกรีต ทำให้สะดวกในการขนย้าย ลดเวลาการก่อสร้างและการใช้แรงงาน
• โครงสร้างแข็งแรง : เป็นชนิดเหล็กที่ได้รับการออกแบบให้โครงสร้างมีความแข็งแรง สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี สม่ำเสมอตลอดแผ่น
• สะดวกต่อการใช้งาน : สามารถติดตั้งและรื้อถอนได้ง่ายด้วยการขันน็อต ทำให้สามารถดำเนินงานก่อสร้างต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น
• ประหยัดค่าใช้จ่าย : เมื่อทำการรื้อถอนเหล็กออกจากโครงสร้างแล้ว ก็สามารถนำเหล็กกลับไปใช้งานใหม่ได้อีกครั้ง
• ทนทานและใช้งานได้ยาวนาน : สามารถทนทานต่อการบิดงอ การรับน้ำหนัก ตลอดจนปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและแรงธรรมชาติ หากดูแลรักษาที่เหมาะสม มีการเคลือบที่ดี จะสามารถทนทานต่อการกัดกร่อน และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน
เหล็กเอชบีมเหมาะกับงานอะไร?
การใช้งานเหล็กเอชบีมในงานก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ โกดัง โรงงานบ้าน สามารถเลือกใช้เหล็กเอชบีมที่มีรูปร่างและขนาดที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้ขั้นตอนการติดตั้งทำได้ง่ายและสะดวก รวมถึงยังสามารถนำไปประดิษฐ์ ตัด เชื่อม ประกอบ ปรับแต่งและแก้ไขให้ตอบโจทย์การออกแบบและขั้นตอนการสร้างที่เหมาะสมได้
การใช้งานเหล็กเอชบีมในงานทำโครงสร้าง เช่น การทำเสา ควรเลือกใช้เหล็กที่มีขนาดและความหนาที่เหมาะสม โดยอาจไม่ต้องทำการหล่อคอนกรีตให้ยุ่งยาก หรือนำไปใช้ในการสร้างคานเหล็กน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่มีความแข็งแรงทนทานที่รับและกระจายน้ำหนักได้ดี และยังเหมาะในการทำโครงหลังคาเหล็ก ที่สามารถดัดแปลงและต่อเติมได้ตามต้องการ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเหล็กเอชบีมและเหล็กชนิดอื่น ๆ
ลักษณะภายนอก
• เหล็กเอชบีม : มีลักษณะเป็นรูปตัว H โดยแผ่นเหล็กปีกบน ปีกล่าง และความกว้างของช่วงตรงกลางมีขนาดเท่ากันทั้งหมด มาพร้อมพื้นผิวเรียบ ให้ความสวยงาม
• เหล็กไอบีม : มีลักษณะเป็นรูปตัว I โดยแผ่นปีกเหล็กบนและล่างแบบเอียง ขนาดหน้าตัดเหล็กเท่ากัน แต่มีความหนามากกว่าชนิดเอชบีม
• เหล็กไวด์แฟรงค์ : มีลักษณะคล้ายชนิดไอบีม โดยแผ่นเหล็กปีกบนและล่างมีขนาดเท่ากัน แต่ความกว้างของแผ่นเหล็กตรงกลางจะมากกว่าปีกทั้ง 2 ข้าง และ เหล็กมีความหนาเท่ากันตลอดทั้งแผ่น เนื้อเหล็กหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จึงไม่มีรอยเชื่อมระหว่างส่วนต่าง ๆ
การนำไปใช้งาน
เหล็กเอชบีมใช้กับโครงสร้างแบบไหน? ชนิดเอชบีม เหมาะสำหรับงานโครงสร้างอาคารขนาดย่อม และโครงสร้างทำคาน เสา หรือหลังคา เพราะมีรูปร่างแข็งแรง สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี แต่สำหรับชนิดไอบีม เหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ เพราะมีรูปร่างที่สามารถรับแรงกระแทกหนัก การลากราง หรือยกเคลื่อนสิ่งของหนัก ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ และชนิดไวด์แฟรงค์ ที่มีรูปร่างคล้ายชนิดไอบีม แต่หนาเท่ากันตลอดจึงสามารถรับแรงในแนวต่าง ๆ ได้ดีกว่าไอบีม นิยมใช้ในงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ หรือแทนการสร้างคอนกรีต สำหรับการทำเสา คาน และหลังคา
เหล็กเอชบีมควรเลือกอย่างไร ให้มั่นใจว่าได้มาตรฐาน
สำหรับงานก่อสร้างอาคารแล้ว ความแข็งแรงของโครงสร้างถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด ดังนั้น การเลือกเหล็กเอชบีมที่ได้มาตรฐาน จึงต้องสังเกตจากโลโก้ “SYS STANDARD” (SIAM YAMATO STEEL STANDARD) ที่มีลักษณะเป็นตัวอักษรนูนปรากฏอยู่บนเหล็ก ซึ่งเป็นมาตรฐานของแบรนด์ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในไทย ที่แสดงถึงคุณภาพตัวเหล็กที่อยู่ในเกรด SS400, SM520 รวมถึงสติกเกอร์ที่มีสัญลักษณ์ มอก. เพื่อแสดงถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของเหล็กชนิดเอชบีม จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่า เป็นเหล็กคุณภาพที่ผ่านการนำเข้าโดยมีการตรวจสอบที่รัดกุม มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้ในงานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกซื้อเหล็กเอชบีม คุณภาพดีได้เลยที่ โลหะเจริญค้าเหล็ก เราคือผู้นำด้านจัดจำหน่ายเหล็กหลากหลายประเภท มีเหล็กชนิดเอชบีม ที่มีสัญลักษณ์ SYS ในทุกขนาด ทุกความยาว หลากหลายเกรดทั้ง SS400 และ SM520 พร้อมบริการแปรรูปเหล็กให้พร้อมใช้งานทันที ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ในราคาโรงงาน การันตีผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงโดยโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่ ประสบการณ์ยาวนานกว่า 60 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำโดยทีมงานมืออาชีพ นึกถึงเหล็กคุณภาพดี ต้องที่โลหะเจริญค้าเหล็กเท่านั้น
สามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ทางเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมเพื่อรับคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ที่เบอร์ 02-291-5050-8 และทาง LINE Official @lohah